เทคนิคฝึกพลังจิต ดึงพลังงาน สร้างพลังจิต

เรามาศึกษาวิธีการสร้างลูกบอลพลังจิต (ไซบอล)ตามวิธีของ Peebrain โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. กำหนดตำแหน่งว่า จะสร้างพลังที่ไหน เช่น ที่มือทั้งสองข้าง ที่ตาที่สามระหว่างคิ้ว หรือ ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เช่น เมืองจีน

ตำแหน่งที่คนส่วนใหญ่จะนิยมเลือก หรือ นิยมฝึกกัน คือ ที่มือทั้งสองข้าง

 

การวางตำแหน่งมือที่นิยมทำกัน จะมี 3 แบบใหญ่ๆ ดังภาพ

คุณสามารถที่จะเลือกท่ามือของคุณเอง หรือ จะเลือกจากภาพทั้งสามดังกล่าวกได้ จากนั้นเราจะไปสุ่ขั้นที่สองกัน

ขั้นตอนที่สอง คือ การเลือกแหล่งกำเนิดพลังงาน

คุณสามารถเลือกแหล่งกำเนิดพลังงานจากที่ไหนก็ได้ เช่น พระอาทิตย์ พระจันทร์ โลก หรือ แม้แต่จากตัวคุณเอง

เพียงแต่ถ้าคุณเลือกแหล่งพลังงานจากตัวคุณเอง จะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยเร็ว

หากคุณต้องการพลังงานที่มีความร้อน อาจเลือกแหล่งพลังงานจากดวงอาทิตย์

หากคุณต้องการพลังงานที่มีความเย็น อาจเลือกแหล่งพลังงานจากดวงจันทร์

หากคุณไม่สนใจอุณหภูมิ อาจเลือกพลังงานจากโลก

สิ่งต่างๆเหล่านี้เพียงแค่ โดยใช้หลักการจากความนึกคิดเท่านั้น

ขั้นตอนที่สาม การดึงพลังงานจากต้นกำเนิดพลังงาน


ขั้นตอนการดึงพลังงานเป็นขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เพียงแค่คุณใช้ความนึกคิด กำหนดจิตสร้างมโนภาพว่า พลังงานกำลังไหลจากต้นกำเนิดพลังงานมาล้อมรอบตัวคุณ หรือ เข้ามาในตัวคุณ
บางคนอาจหลับตากำหนดภาพ บางคนอาจไม่หลับตา คุณอาจจะลองทั้งสองแบบคือทั้งหลับตาและไม่หลับตา แล้วดดูว่าแบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด เช่น
คุณอาจหลับตานึกถึงภาพว่า

พลังจิต ดึงพลังงานจากโลก

1. คุณกำลังยืนอยู่บนโลก โลกกลมๆ มีศูนย์กลางพลังงานที่ตรงกลางโลก
2. จากนั้นพลังงานจากศูนย์กลางโลกไหลออกมาที่ผิวโลก ผ่านผืนดินตรงมาที่เท้าของคุณ
3. พลังงาน ไหลเข้ามาที่ปลายเท้าคุณ และเข้าสู่ร่างกายของคุณผ่านทางเท้า

วิธีการดึงพลังงานนั้น ไม่มีขีดจำกัด คุณสามารถจินตนาการตามที่คุณต้องการ เรามาลองดูตัวอย่างเพิ่มเติมกันต่อไป เช่น


* กำหนดภาพว่า แหล่งพลังงานเสมือนมีช่องเสียบไฟฟ้า และตัวคุณเสมือนมีปลั๊กเสียบเข้าไป เหมือนการเสียบสายเครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วดึงพลังงานจากแหล่งกำเนิดพลังงาน


* กำหนดภาพว่า แหล่งพลังงานอยู่เหนือตัวเรา แล้วพลังงานไหลลงมาเหมือนน้ำตก ไหลเข้าสู่ตัวเรา


* กำหนดภาพว่า แหล่งพลังงานอยู่เหนือตัวเรา คล้ายกับก้อนเมฆ แล้วเกิดแสงพุ่งออกมา เข้ามาสู่ตัวเรา


* กำหนดภาพว่า แหล่งพลังงานกำลังส่งพลังงานก้อนใหญ่ให้คุณ และคุณกินพลังงานนั้นเข้าไป


สรุปคือ คุณสามารถกำหนดภาพตามรูปแบบที่คุณถนัดและเหมาะสม ให้สามารถดึงพลังงานจากสิ่งนั้นได้ และได้รับพลังงานในรูปแบบต่อเนื่อง ซึ่งหากชำนาญอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที หรือ หากยังไม่ชำนาญอาจใช้เวลาหลายนาทีเพื่อให้รู้สึกว่าได้รับพลังงานจากแหล่งต้นกำเนิดอย่างต่อเนื่อง

 

ขั้นตอนที่สี่ การสร้างบอลพลังจิต PSI ball

เรายังคงพลังงานจากแหล่งกำเนิดอย่างต่อเนื่อง สร้างความรู้สึก ชักนำพลังงานที่เข้ามาสู่ร่างกายนั้น ให้ไปในตำแหน่งที่เรากำหนดไว้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก เช่น ที่ระหว่างมือทั้งสองข้าง โดยกำหนดภาพให้พลังงานนั้นรวมตัวกันเป็นก้อนกลม

บอลพลังจิต

พยายามใช้ระบบประสาทสัมผัสต่างๆประกอบกับภาพที่เราสร้างขึ้น เช่น รู้สึกถึงการไหลของพลังงานผ่านไปตามส่วนต่างๆของร่างกายไหลไปที่มือทั้งสองข้าง หรือ อาจจะสัมผัสถึงเสียง เป็นขั้นตอนเริ่มต้นในการฝึกการรับสัมผัสของพลังงาน

ขั้นตอนที่ห้า คือ การเพิ่มพลังงานให้บอลพลังจิต

การเพิ่มพลังงานให้บอลพลังจิตนั้นมีสองวิธี คือ

1. การเพิ่มขนาดของบอลพลังจิต โดยยังคงความหนาแน่นเท่าเดิม

 

ขยายพลังจิตให้ใหญ่ขึ้น

 2. การเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน (  ขนาดเท่าเดิมแต่หนาแน่นขึ้น )

พลังจิตหนาแน่น

ทั้งสองวิธีนั้น สามารถทำได้โดยการกำหนดภาพตามปกติ คือ กำหนดภาพให้บอลพลังจิตขยายใหญ่ขึ้น หรือ กำหนดภาพให้บอลพลังจิตหนาแน่นขึ้น

เมื่อคุณทำมาถึงขั้นที่ห้า เท่ากับคุณได้สำเร็จขั้นต้นของการฝึกพลังจิตแบบหนึ่ง

 

 

Taxonomy upgrade extras: 

เราเองก้อยังไม่รู้เลยค่ะ เพราะไม่มีใครตอบในส่วนที่เราอยากรู้ว่าการที่เราทำได้แล้วจะสามารถนำไปพัฒนาในส่วนไหน ต่อไปอย่างไร ถ้าใครรู้วานตอบด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ ^-^ (แบบว่าทำได้แล้วก้อยังไม่รู้จุดประสงค์ในการทำซักเท่าไหร่ค่ะ)

พูดง่ายๆก้อคือถ้าคุณสามรถดึงเอาจิตใต้สำนึกออกมาใช้ได้อย่างง่ายๆก้อสามารถเข้าใจถึงพลังมากขึ้นครับพุดง่ายๆก้อคือลองตัดทุกสิ่งทุกอย่างดู เช่นตัดเสียยงรบกวนออกไปก้อทำให้มีสมาธิมากขึ้น ผมลองทำดูปรากดว่าเหมือนกับว่าถูกไฟฟ้าช้อดครับเริ่มเห้นไปแสงและมีควันออก ผมก้อไม่รู้ว่านั่นมันคืออะไรเพราะฉะนั้นแล้วเราลองมาทำดูกันเถิด ถ้าอยากรู้แอดมาที่ promsri_50@hotmail.com หรือโทรมาที่ 0835320332 แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ ผมเชื่อว่าพลังจิตมีอยู่จิง แต่เราดึงออกมาใช้ไม่มากก้อแค่นั้นเอง

เขวี้ยงPSI ball ใส่กันจะเจ็บไหม-*- สนใจมากๆครับ อยากฝึกมากกว่านี้ครับ

มีวิธีฝึกอย่างที่ทำได้ง่ายที่สุด และทำให้เห็นผลได้ทุกคนที่ฝึก เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราฝึกได้แล้ว ช่วยกรุณาตอบให้ทราบด้วย

ความจริงวิธีนี้ เป็นวิธีที่ง่ายแล้วครับ คนส่วนใหญ่จะรู้สึกสัมผัสได้ เพียงแต่การพัฒนาให้สูงขึ้นๆไปนั้น แต่ละคนสามารถทำได้ไม่เท่ากัน เวลาคุณทานข้าว คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณอิ่มแล้ว หรือ แม้แต่เด็กทารกดื่มนม เด็กรู้ได้อย่างไรว่าอิ่ม ทั้งๆที่แรกเกิดมาก็ไม่มีใครไปอธิบายให้ฟัง ... สิ่งนี้ก็เป็นทำนองเดียวกัน คุณต้องลองฝึกด้วยตนเองแล้วจะทราบ ส่วนท่านที่สนใจในรายละเอียดที่สูงขึ้นไปนั้น ยังมีแนวทางในการฝึกฝนต่อไปอีก เช่น การเปลี่ยนสีของบอลพลังจิต การสร้างเกราะพลังจิต เอาไว้จะเขียนต่อให้ครับ

ถ้าหากผมทำแล้วมันรู้สึกเหมือนกับ เป็นลูกแม่เหล็กล่ะครับ แบบนั้นใช่รึเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมทำตามขั้นตอนแล้ว ผมรู้สึกมีลูกอะไรบางอย่าง อยู่ระหว่างมือผม คล้ายๆ ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ เหมือนผม กำลังบีบให้มือเข้ามาหากันเบาๆ แต่มีลูกโป่งมากั้นใว้ แบบนี้ใช่พลังจิตรึเปล่าครับ ผมสงสัยมานานแล้ว

ถ้าหากผมทำแล้วมันรู้สึกเหมือนกับ เป็นลูกแม่เหล็กล่ะครับ แบบนั้นใช่รึเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมทำตามขั้นตอนแล้ว ผมรู้สึกมีลูกอะไรบางอย่าง อยู่ระหว่างมือผม คล้ายๆ ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ เหมือนผม กำลังบีบให้มือเข้ามาหากันเบาๆ แต่มีลูกโป่งมากั้นใว้ แบบนี้ใช่พลังจิตรึเปล่าครับ ผมสงสัยมานานแล้ว

เป็นการสัมผัสถึงพลังงานของร่างกายมนุษย์ในขั้นพื้นฐาน หรือ จะเรียกว่าพลังจิตเบื้องต้นก็ได้ ซึ่งเมื่อฝึกควบคุมพลังงานต่อไป ก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

แล้วถ้าหากผมควบคุมได้คล่องแล้ว จะสามารถนำไปใช่ประโยชน์อะไรได้บ้างครับ แล้วถ้าไม่ได้ฝึกบ่อย ประสิทธิภาพจะด้อยลงไปไหมครับ

ผมฝีกรับพลังจากท้องฟ้า จะมีอาการหาวออกมาตามหลักการสอนของอาจารย์หนุ่มที่แม่สะเรียง ส่วนการฝึกบอลพลังจิต เพิ่งเริ่มลองหัดทำ จิตนาการไปจะรู้สึกปวดตุ๊บๆที่ฝ่ามือทางด้านขวาจะรุนแรงกว่าด้านซ้าย อันนี้มาถูกทางไหมครับ ขอรบกวนผู้รู้แนะนำการรับพลังจากต้นไม้ด้วยครับว่า ควรทำช่วงเวลาใด แบบใด ขอบคุณมากครับ

Pages