อิ่มทิพย์ อดอาหารเป็นปีๆ ธุดงค์ในป่าลึก

หลวงพ่อเรียน ปคุโน

อิ่มทิพย์ อดอาหารเป็นปีๆ ธุดงค์ในป่าลึก  เป็นอีกหนึ่งในเรื่องราวอัศจรรย์ของ หลวงปู่ทองดำ บรมครูสายณกุศล ที่ณกุศลได้เคยรับฟังมาจากบุคคลที่เชื่อถือได้

หลวงพ่อเรียน ปคุโน ( พระครูวิสุทธาภิราม ) อดีตเจ้าคณะตำบลกระสัง อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสุทธาราม ตำบลเมืองแก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เคยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ หลวงปู่ทองดำบรมครู ให้ อ.เทพ เกษมพรรณราย ได้ทราบดังนี้

หลวงพ่อเรียน บอกว่า " ตัวฉันเองฝึกจิตปฏิบัติมา ก็มีความมั่นใจในวิชาตัวเอง ไม่ยอมรับใครง่ายๆ แต่กับหลวงปู่ฯนี่ฉันยอมรับหมดใจ "

หลวงพ่อเรียน ท่านยิ้มๆ ท่าทางอารมณ์ดี แล้วพูดต่อว่า

" ลองไปถามหลวงปู่ฯดูซิ ตอนที่ท่านธุดงค์ในป่า ทำยังงัยถึง อดอาหารอยู่ได้เป็นปีๆ โดยไม่ต้องฉันอาหารเลย "

กลุ่มนักแสวงบุญ ซึ่งมี อ.เทพ ร่วมอยู่ในกลุ่มด้วย ได้ยินดังนั้นก็หันมามองหน้ากันด้วยความแปลกใจ 

พวกเราเคยได้ยินเรื่องการเข้าฌานสมาบัติ สามารถอดอาหารได้ในระยะสั้นๆ เช่น 7 วัน ซึ่งปกติจะอยู่นิ่งๆหรือไม่เคลื่อนไหวร่างกายมากนัก

ส่วนการธุดงค์เดินป่านั้น น่าจะต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายมาก แต่ยังสามารถอดอาหารเป็นปีๆ ถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ ที่คนทั่วไปไม่คุ้นเคยหรือรับทราบมาก่อน

หลวงพ่อเรียน ไม่ยอมเล่าในรายละเอียดให้ฟัง เหมือนผู้ใหญ่อารมณ์ดีชอบแหย่เด็ก แกล้งแหย่ให้พวกเราอยากรู้อยากเห็น ให้ไปแสวงหาคำตอบเอาเองจากหลวงปู่ทองดำบรมครู

ส่วนคำตอบที่ทางคณะแสวงบุญได้ทราบมาจะเป็นอย่างไรนั้น โอกาสหน้าทางณกุศลจะมาเล่าให้อ่านกันต่อไป

บันทึกไว้ในความทรงจำ การอดอาหารยาวนานเป็นปีๆ ขณะที่ธุดงค์ในป่าลึก พระสงฆ์ไทยมีผู้ที่สามารถกระทำได้ คือ หลวงปู่ทองดำ บรมครูสายณกุศล

พุทธคุณดีมีเมตตา ฟันไม่เข้า ยิงไม่เข้า

ประสบการณ์ พระโพธิญาณ วัดหนองเลา

พุทธคุณดีมีเมตตา ฟันไม่เข้า ยิงไม่เข้า

หนึ่งในประสบการณ์ พระโพธิญาณ เนื้อผงพุทธคุณโรยแร่ ชุดทั่วไป ( ชุดที่ อ.เทพ เกษมพรรณราย ถวายวัดหนองเลา ) คนในพื้นที่ จ.มหาสารคาม บอกเล่ากันว่า

" เคยประสบอุบัติเหตุหลายครั้ง อาทิเช่น  เคยโดนวัยรุ่นไล่ฟันแต่ฟันไม่เข้ามีแค่รอยเสื้อขาด และ  เคยโดนวัยรุ่นยิงด้วย.38ระยะเผาขนแต่ไม่เป็นไร และ  อุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้ง หลายอย่างแคล้วคลาดดีมากครับ พุทธคุณดีมีเมตตา "

ที่ณกุศล ลงบันทึกไว้ก็ไม่ได้อยากให้ใครไปทดลองพระโพธิญาณ ด้วยมีด ด้วยปืน เพราะเรื่องราวเหล่านี้มีเหตุมีปัจจัยประกอบหลายอย่าง

ลงบันทึกไว้ เพื่อเจริญศรัทธา สำหรับผู้ที่มีไว้ในครอบครอง ว่า พระโพธิญาณ เนื้อผงพุทธคุณโรยแร่ ถือว่าเป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุณสูงรุ่นหนึ่ง

เมื่อใครมีพระเครื่องที่มีพุทธคุณดีแล้ว สิ่งที่สำคัญ คือ ศรัทธา จะนำมาซึ่งปาฏิหารย์ ... ส่วนจะเป็นไปในแนวทางไหนนั้นขึ้นกับวิถีทางของแต่ละคน

การที่ณกุศล ลงบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้นั้นจะเห็นได้ว่า " ไม่เปล่าประโยชน์ "

พระโพธิญาณ จัดสร้างในปี พ.ศ. 2542 ผ่านไปเพียง 20 ปี คนรุ่นหลังจำนวนมากก็บอกเล่าประวัติผิดเพี้ยนกันไปมาก เช่น จำปี พ.ศ.ที่สร้างผิดพลาด

แต่หากบางคนที่สนใจค้นคว้าจริงๆ ย่อมจะพบเจอประวัติที่แท้จริงซึ่งทางณกุศลได้บันทึกไว้

กล่าวได้ว่า สิ่งต่างๆที่ทางณกุศลได้บันทึก ได้ทำไว้นั้น หากมองลึกๆถึงแก่นแท้แล้ว ล้วนแต่เป็นประโยชน์กับคนรุ่นหลังทั้งสิ้น

พระเสด็จกลับ พระคู่บารมี

เรื่องราวของ พระเครื่อง ที่สามารถเคลื่อนย้ายเปลี่ยนสถานที่ได้เอง ด้วยอานุภาพของสิ่งลึกลับที่มองไม่เห็น ทางณกุศลเคยได้อ่านพบอยู่บ้าง

เช่น ในปี พ.ศ.2506 หลวงปู่สุภา กันตสีโล ได้สร้างพระเครื่อง และทำพิธี นำพระทิ้งลงกลางทะเล จากนั้นทำพิธีเรียกพระเครื่องกลับไปในปรัมพิธี พระเครื่องที่สามารถเคลื่อนย้ายกลับเข้าไปในพิธีได้เองนั้น เรียกกันว่า พระเสด็จกลับ กล่าวกันว่าพระเครื่องที่เสด็จกลับมานั้น ท้าวภุชงค์นาคราชพร้อมด้วยบริวารเป็นผู้เคลื่อนย้ายนำกลับมาให้

อ่านแล้วทางณกุศลเองก็ยังคิดว่าเป็นเรื่อง ไกลตัว ไปหน่อย ... เพราะพระเครื่องในพิธีที่เสด็จกลับมาเอง มีเพียง 106 องค์ และผ่านกาลเวลามานานถึงห้าสิบกว่าปี ก็ไม่อยากไปตามหาให้เหนื่อย และเสี่ยง คือ นอกจากมูลค่าสูงแล้ว ยังต้องเสี่ยงกับพระปลอมที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

แต่บางครั้ง สำนวนโบราณที่ว่า " ใกล้เกลือกินด่าง " ก็ยังคงใช้ได้อยู่เสมอ

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2562 ทางณกุศล ได้ติดตาม อ.เทพ เกษมพรรณราย เดินทางไปวัดธาตุทอง จ.กรุงเทพมหานคร เพื่อไปงานฌาปนกิจ ญาติผู้ใหญ่

ในงานก็มี ญาติสนิท มิตรสหาย คนที่เคยรู้จักมาร่วมงาน และร่วมสนทนากัน

หนึ่งในเรื่องราว ที่น่าสนใจ คือ คุณรัตน์ พร้อมกับ พระเครื่องที่ห้อยโชว์อยู่นอกเสื้อ ดูสวยงาม โดดเด่นสะดุดตา เป็นที่สนใจสอบถามจากบุคคลทั่วไปที่พบเห็น

คุณรัตน์ เล่าให้ฟังว่า พระเครื่ององค์นี้ถือว่าเป็น " พระคู่บารมี "

แต่เดิมนั้น คุณรัตน์แขวนพระองค์นี้ แล้วถอดออกเก็บไว้บนหิ้งพระ ด้วยตั้งใจว่า วันรุ่งขึ้นจะเปลี่ยนแขวนพระเครื่ององค์อื่น จากนั้นก็สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วเข้านอนตามปกติ

พอตื่นเช้าวันรุ่งขึ้น ปรากฎว่า พระเครื่ององค์ที่เก็บไว้บนหิ้งพระ เสด็จมาเอง คือ เคลื่อนย้ายสถานที่จากหิ้งพระ มาอยู่บนมือคุณรัตน์เอง ด้วยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลรักษาองค์พระ

พร้อมกับได้ยิน เสียงลึกลับ ที่ทรงพลังอำนาจ ชัดเจนเต็มสองหู ว่า " ฮึ่ม แขวนพ่อ องค์เดียวก็พอแล้ว "

นับจากนั้นมา คุณรัตน์จึงแขวนพระเครื่ององค์นี้เป็นพระเครื่องประจำตัว

ถ้าหากจะเรียกว่า " พระเสด็จกลับ พระคู่บารมี " ก็น่าจะเรียกได้

โดยส่วนตัว ณกุศลเองก็มีพระรุ่นเดียวกันกับ " พระเสด็จกลับ พระคู่บารมี " ที่คุณรัตน์แขวนอยู่หลายองค์ แต่ก็ยังไม่เคยเจอประสบการณ์แนวนี้ อาจจะเป็นด้วยว่า ปกติณกุศลก็พกติดตัวตลอด ยังไม่เคยคิดจะเปลี่ยน และเหตุปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่างประกอบกัน

พอได้ยินประสบการณ์จากคนรู้จักกันแล้ว ก็คิดว่า ณกุศลยังโชคดีที่มีเก็บไว้หลายองค์ และมีความมั่นใจในพุทธคุณของพระรุ่นนี้มากขึ้น

หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตคนเรา บางครั้งสิ่งดีๆอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่เราคิด โดยไม่จำเป็นต้องไปดิ้นรนแสวงหาสิ่งที่ไกลตัวเลย

บันทึกไว้ในความทรงจำ เกี่ยวกับ พระเสด็จกลับ พระคู่บารมี

12 มีนาคม พ.ศ.2562 วัดธาตุทอง จ.กรุงเทพมหานคร

Pages